เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ในตระกูล Lumia อย่าง Lumia 830 และ Lumia 730 Dual-SIM ซึ่งเป็นรุ่นระดับกลางเพื่อเจาะตลาดกลาง โดย Lumia 730 เป็นรุ่นที่เน้นสำหรับการถ่าย selfie ด้วยกล้องหน้าความคมชัดสูงขนาด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งวันนี้ทางทีมงาน WindowsMove ได้รับเครื่อง Lumia 730 มารีวิวด้วย ไม่ให้เสียเวลามาดูรีวิวกันเลยดีกว่าครับ

หมายเหตุ: ตัวเครื่องนี้ได้รับการสนับสนุนโดยไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทยเช่นเคย

แกะกล่อง

ตัวกล่องของ Lumia 730 ยังคงคอนเซปต์เดิมในรุ่นปี 2014 ทั้หงมด คือกล่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวสะอาดตา โดยภาพด้านหน้ากล่องนั้นจะแสดงถึงทั้ง 3 ด้านของเครื่อง และยังคงความสวยงามไว้เหมือนเดิม

เมื่อด้านข้างมีเขียนว่า Nokia Lumia 730 Dual SIM ซึ่งก็แปลว่ารุ่นนี้ใส่ได้ 2 ซิมนั่นเอง

ด้านหลังมีเขียนรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วนเช่นเดิม

เมื่อเลื่อนกล่องออกมาก็จะเจอตัวเครื่อง Lumia 730 สีส้ม (ซึ่งเป็นสีที่จะมารีวิวในรอบนี้)

ถัดมาแผ่นพับเกี่ยวกับแอปต่าง ๆ ในแอป App Social บน Lumia พร้อมกับแอปแนะนำต่าง ๆ เช่นเดิมตามสูตร แต่มีอีกแผ่นหนึ่ง เขียนข้อมูลว่า รุ่นนี้ไม่รองรับการนำซิมแบบ nano-SIM ที่ใส่ตัวแปลงแล้วนะครับ ฉะนั้นใครใช้รุ่นที่เป็น nano-SIM ทราบแล้วเปลี่ยนครับ

ถัดลงมาก็จะเป็นส่วนของแบตเตอรี่, คู่มือ และใบรับประกัน

อีกด้านหนึ่ง เป็นส่วนของสายชาร์จหัวเสียบแบบ USB, หัวต่อปลั๊กไฟบ้าน และหูฟังครับ ซึ่งเป็นหูฟังแบบธรรมดา แบบเดียวกับ Nokia X2 และ Lumia 530 เป๊ะ

เมื่อจัดเรียงออกมาแล้วก็จะได้ประมาณนี้ครับ

สำรวจรอบ ๆ เครื่อง

ด้านหน้าของ Lumia 730 จะมีลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ ambiant sensor + light sensor, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, โลโก้ NOKIA, หน้าจอ 4.7 นิ้วแบบ wide-screen และไมโครโฟนเล็ก ๆ ด้านล่าง ข้อสังเกตคือ ไม่มีปุ่ม softkey บนหน้าจอ (อีกแล้ว) ครับ

ด้านข้างซ้ายเรียบเนียนสนิทเช่นเดิม

ด้านข้างขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มปิดเครื่อง ไม่มีปุ่มชัตเตอร์อยู่ดี

ด้านหลังเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 6.7 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง มีโลโก้ ZEISS เล็ก ๆ ใกล้ ๆ กับไมโครโฟน และลำโพงเล็ก ๆ 1 ดอกครับ

ด้านบนมีเพียงแค่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างมีเพียงแค่ช่องต่อ micro USB แค่นั้นครับ

เมื่อแกะฝาหลังออกมา จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ขนาด 2,200 mAh, ช่องเสียบ microSD ช่องใส่ซิมการ์ดอันแรก ส่วนอันที่ 2 จะอยู่ด้านนอกครับ ใส่ง่ายถอดง่าย ขณะที่ฝาหลังนั้นจะรองรับ NFC ไม่มี wireless charging แต่อย่างไร

ตัวเครื่องถือว่าดูดีพอสมควร แต่ตินิดนึงที่ว่าฝาหลังนั้นออกแบบมาแม้จะแกะง่ายกว่า Lumia 530 แต่ถ้าหากไม่ได้บอกวิธีแกะฝาหลัง ก็คงไม่ง่ายที่จะแกะฝาหลัง ส่วนหนึ่งก็คงเป็นที่ปัญหาของการออกแบบด้วยครับ

อย่างไรก็ดี Lumia 730 ถือเป็นรุ่นระดับล่าง (ค่อนไปทางกลาง ๆ นิด ๆ) ที่ลบจุดด้อยของ Lumia 630 และ Lumia 530 ในด้านเซ็นเซอร์ออกไปเสียหมดเกลี้ยง (ตาม requirement ใหม่ของไมโครซอฟท์ที่บังคับต้องมี ambiant sensor และ light sensor ด้วย)

สเปก

• หน้าจอ OLED 4.7 นิ้ว ความละเอียด 720p
• ซีพียู Qualcomm Snapdragon 400 quad-core ความเร็ว 1.2 GHz
• แรม 1 GB
• หน่วยความจำภายใน 8 GB
• กล้องหลัง 6.7 ล้านพิกเซล auto-focus ค่ารูรับแสง f/1.9 ความยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร ใช้เลนส์ ZEISS พร้อมแฟลช LED 1 ดวง
• กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 ความยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร
• แบตเตอรี่ 2,220 mAh
• Windows Phone 8.1 Update พร้อมเฟิร์มแวร์ Lumia Denim

ซอฟต์แวร์

Lumia 730 มาพร้อมกับ Windows Phone 8.1 Update และเฟิร์มแวร์ Lumia Denim ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ (รายละเอียดเกี่ยวกับ Windows Phone 8.1 Update คงไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก สามารถดูได้จากคุณสมบัติของ Lumia Denim ได้เลยครับ)

แม้ว่าตัวซอฟต์แวร์ของระบบจะไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นนัก แต่มีหนึ่งในฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ในรุ่นนี้เลยคือแอป Lumia Selfie ซึ่งเป็นแอปถ่ายภาพ selfie ที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาของไมโครซอฟท์ ซึ่งจะขอพูดอีกทีในเรื่องของกล้องครับ

อีกจุดหนึ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจากตัว Lumia ที่ไม่มี softkey คือ ปุ่มด้านล่าง ที่ในงวดนี้เราสามารถซ่อนมันได้แล้ว (และมีวิธีการเรียกกลับมาที่ค่อนข้างแปลกนิดนึง) โดยมีให้ปรับทั้งหมด 2 รูปแบบคือ แบบแสดงปุ่มเพื่อซ่อน กับแบบปัดจากล่างขึ้นข้างบน (ส่วนวิธีการเรียกมันกลับมาเป็นแบบเดียวกันคือ ปัดจากล่างขึ้นข้างบน)

จากภาพข้างบน ภาพแรก เป็นภาพก่อนซ่อน softkey ส่วนข้างล่างเป็นภาพหลังซ่อน softkey แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นข้อเสียเรื้อรังมาจาก Lumia 930 ก็คือ Lumia 730 ยังคงเลือกที่จะใช้จอ OLED ทำให้ฟีเจอร์ glance screen ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง (ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่ามันเป็นปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ ที่กำลังหาวิธีแก้ด้วยซอฟท์แวร์อยู่) ส่วนแตะสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

การใช้งานจริง

Lumia 730 ออกแบบตัวเครื่องมาไม่ค่อยกว้างสักเท่าไร ทำให้ถือใช้งานกระชับมือมาก ส่วนประสิทธิภาพของ Lumia 730 ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ แบบไร้ที่ติเลย ประกอบกับตัวเครื่องที่มีแรมมาให้มากถึง 1 GB ทำให้สามารถใช้งานแอปทั้งหมดใน Windows Phone Store ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ข้อตินิดนึงคือ เวลาถ่าย selfie เมื่อไม่มีปุ่มกดชัตเตอร์ ทำให้ถ่าย selfie ได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก แต่อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักเมื่อเทียบกับขนาดของตัวเครื่องที่ค่อนข้างเล็กมาก

กล้อง

Lumia 730 จะค่อนข้างเน้นหนักไปทางด้านของกล้องหน้า (กล้องสำหรับถ่าย selfie) เป็นพิเศษ ด้วยกล้องหน้าแบบกว้างความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับแอป Lumia Selfie ที่จะช่วยให้การถ่าย selfie ดีขึ้นกว่าเดิม โดยแอป Lumia Selfie นั้นถูกออกแบบมาให้สามารถใช้กล้องหน้าและกล้องหลังถ่าย selfie ได้ ซึ่งก็แปลว่า แม้ว่า Lumia ของท่านไม่มีกล้องหน้า (อย่างเช่น Lumia 520, Lumia 525, Lumia 630, Lumia 530) ก็ยังสามารถ่าย selfie ได้ ผ่านระบบการแทรกใบหน้าของเรา พร้อมเสียงเตือนเมื่อใกล้ถึงตำแหน่งของหน้าเรา

แน่นอนว่า Lumia 730 มีกล้องหน้าที่ละเอียดมาก ๆ ผมเลยให้โมเดล (ก็คือตัวผมเอง และยืมโมเดลจากคุณเก่ง กวิษรา จาก DroidSans มาสักเล็กน้อย :-P) ถ่าย selfie สักเล็กน้อย ผลออกมาคือ ภาพสวยมาก ๆ ครับ กล้องหน้าแสงค่อนข้างดี และรายละเอียดของภาพครบถ้วน

ขณะที่กล้องหลังของ Lumia 730 ก็ถือว่าดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตัวเลนส์ที่ใช้เลนส์ ZEISS อย่างดี ซึ่งภาพที่ได้ สวยตามคาดครับ ถ่ายได้ที่แสงน้อยได้ดีมาก ๆ แต่ว่าภาพบางช็อตกลับมีติดเหลืองให้เห็นอยู่นิดนึง

Warp-up

Lumia 730 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางค่อนไปทางล่างที่ทำได้ดีมาก และถือว่าประสิทธิภาพคุ้มราคาจริง ๆ แต่ข้อด้อยที่ยังคงแก้ไม่ตกคือเรื่องของปุ่มชัตเตอร์, หน้าจอที่ไม่รองรับ glance screen, ไม่มีปุ่ม softkey และฝาหลังที่ดูแล้วค่อนข้างแกะยากนิดนึงถ้าหากแกะไม่เป็น (แต่เมื่อแกะเป็นแล้ว จะง่ายสุด ๆ)

ถ้าหาไม่ติดในประเด็นต่าง ๆ Lumia 730 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ได้กล้องหน้า selfie ที่ดีมาก ๆ รุ่นหนึ่งเท่าที่เคยใช้งานมาครับ

WindowsMove Review Score

ข้อดี

1. วัสดุตัวเครื่องดีมาก ๆ และดีไซน์สวยงาม
2. สเปกต่าง ๆ ได้รับการปรับปรุงมาจากรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งทำได้ค่อนข้างดี
3. กล้องหน้าสวยสุด ๆ
4. ระบบค่อนข้างเสถียร
5. คุ้มค่าคุ้มราคาในรุ่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน


ข้อเสีย

1. กล้องหลังติดเหลืองเล็กน้อยในบางจุด
2. ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ ถ่าย selfie ลำบาก
3. ไม่มี glance screen
4. ไม่มี softkey
5. ฝาหลังแอบแกะยากในช่วงแรก


Lumia 730 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 7,690 บาทครับ